วิธีป้องกัน
- สวมใส่แว่นกันแดดเมื่ออยู่ในที่แสงจ้า
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- งดการสูบบุหรี่
- รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักคะน้า ข้าวโพด หรือถั่วลันเตา
วิธีรักษา จอประสาทตาเสื่อม
ในทางการแพทย์ยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายเป็นจุดรับภาพปกติได้ แต่จะชะลอเวลาให้เกิดความเสื่อมช้ามากที่สุด และฟื้นการมองเห็นได้ในรายที่รักษาได้เร็วพอ โดยจะแบ่งการรักษาตามประเภท ดังนี้
- การรักษาโรคจุดรับภาพเสื่อมชนิดไม่มีเส้นเลือดเปราะ (ชนิดแห้ง)
เป้าหมายการรักษาคือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการลุกลามมากขึ้น กลายเป็นชนิดมีเส้นเลือดเปราะ ทางแพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยเข้ามาตรวจเช็กสายตากับทางจักษุแพทย์อย่างสม่ำเสมอ รับประทานวิตามินรวมเพื่อลดโอกาสการเปลี่ยนชนิดไปเป็นชนิดที่มีเส้นเลือดเปราะ ตรวจก่อนนัดทันทีเมื่อรู้สึกผิดปกติ
ในบางราย หากมีปัญหาทางด้านสายตา หรือโรคตาอื่นที่อาจมีส่วนต่อการมองเห็นร่วมด้วย เช่น สายตาสั้น ต้อกระจก ก็รักษาตามปัญหานั้น เช่น ใส่แว่น หรือผ่าตัดลอกต้อกระจก
ปัจจุบันมียาฉีดเข้าตาเพื่อลดโอกาสการเปลี่ยนจากชนิดแห้งไปเป็นชนิดเปียก แต่ยังไม่เป็นที่นิยมนักเนื่องจากวิธีการรักษายังยุ่งยากและมีความเสี่ยง
- การรักษาโรคจุดรับภาพเสื่อมชนิดมีเส้นเลือดเปราะ (ชนิดเปียก)
เป้าหมายการรักษาคือการปิดเส้นเลือดที่เปราะใต้จุดรับภาพ ทำให้เส้นเลือดที่เปราะใต้จุดรับภาพแข็งแรงขึ้น เพื่อหยุดการรั่ว ป้องกันการแตกซ้ำ ซึ่งปัจจุบันจะเป็นการฉีดยาเข้าตา หรือฉายเลเซอร์ (จะต้องฉีดยาหลายครั้งในแต่ละราย)
ในรายที่มีเลือดออกมากใต้จุดรับภาพ หากทิ้งไว้อาจทำให้จุดรับภาพเสียหายถาวร หรือรายที่มีเลือดฟุ้งออกมาในวุ้นตา บดบังการมองเห็น อาจต้องทำการผ่าตัดล้างเลือดออกจากวุ้นตา หรือจากใต้จุดรับภาพ ร่วมกับการฉีดยาซ้ำๆเพื่อป้องกันการเกิดเลือดออกซ้ำ
พยากรณ์โรค
ในรายที่ตรวจรักษาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น มักจะป้องกันภาวะตาบอดจากโรคจุดรับภาพเสื่อมในผู้สูงอายุได้ในรายที่ตรวจรักษาช้า ได้รับการตรวจในระยะท้ายของโรค อาจไม่มีวิธีรักษาให้การมองเห็นกลับมาดีขึ้นได้อีกเลย
ข้อมูลจาก
อ. นพ.ณวัฒน์ วัฒนชัย
สาขาวิชาน้ำวุ้นตาและจอประสาทตา
ภาควิชาจักษุวิทยา
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล