หนังสือส่งเสริมการรู้หนังสือภาษาไทย เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาสาระง่าย ๆ แต่กระบวนการคิด ยกร่าง และจัดทำแบบฝึกหัดค่อนข้างยากมาก เพราะต้องเป็นเนื้อหาและระดับความยากง่ายที่เหมาะสมกับผู้เรียน รวมทั้งวิธีการสอนสำหรับกลุ่มเป้าหมายก็ต้องแตกต่างจากกลุ่มนักเรียนไทยที่พูดภาษาไทยตั้งแต่เกิด จึงขอนำเสนอเทคนิคการสอนผู้ไม่รู้หนังสือ 5 ขั้นตอน คือ
1. สอนการฟังก่อน จุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้เรียนสามารถจดจำเสียงต้นแบบของครู ซึ่งครูจะออกเสียงชัดเจนและผู้เรียนจะรู้สึกคุ้นหูและสามารถจับเสียงหรือถ้อยคำที่พูดได้ ยกตัวอย่างชื่อที่ควรให้ผู้เรียนหัดฟังก่อน คือ ชื่อของครู และมารยาทต่าง ๆ เช่น สวัสดี ขอโทษ ขอบคุณ หรือสอนคำศัพท์พื้นฐานในชีวิตประจำวัน เช่น นั่ง ยืน เดิน หยุด วิ่ง สมุด ดินสอ หรือถ้าครูมีความสามารถก็อาจแต่งเป็นเพลง หรือนำเพลงเกี่ยวกับคำว่า สวัสดี ครูร้องให้ฟังก่อน ต่อมาจึงสอนให้พูด/ร้องเพลง
2. สอนฝึกหัดพูด ต้องให้เวลาแก่ผู้เรียนในการฟังเสียงต้นแบบจากครูมากพอ เพื่อให้เด็กสามารถเลียนแบบเสียงและสามารถเปล่งเสียงเป็นคำพูดออกมาได้ เช่น ชื่อครู มารยาทต่าง ๆ เช่น สวัสดี ขอบคุณ ขอโทษ ครูอาจนำเพลง/แต่งเพลงให้ผู้เรียนร้องตาม ทำให้ผู้เรียนจดจำคำพูดและสามารถเปล่งเสียงพูด/ร้องออกมาตามครูได้
3. สอนให้หัดอ่าน เป็นทักษะที่ค่อนข้างยาก ต้องค่อย ๆ ฝึกเป็นระบบ และเป็นขั้นตอน คือ
หนึ่ง แนะนำตัวอักษร/พยัญชนะก่อน 44 ตัวอักษร ไม่ต้องสอนวันเดียว แบ่งสอนวันละ 3-5 ตัว ดูที่ความพร้อมของผู้เรียน แล้วครูอ่านให้ฟังก่อน 2-3 ครั้ง หลังจากนั้นให้ผู้เรียนอ่านพร้อมกับครูทั้งชั้นจนมั่นใจว่าเด็ก/ผู้ใหญ่สามารถอ่านได้ แล้วขออาสาสมัคร 2-3 คน ออกมาอ่านพร้อมกับครูหน้าห้อง 2-3 ครั้ง หลังจากนั้นให้เด็ก/ผู้ใหญ่อ่านทีละคน อ่านจนครบ 44 ตัว ครูอาจใช้วิธีสอนแบบไม่เรียงตัวตั้งแต่ ก ถึง ฮ เพื่อทดสอบว่าผู้เรียนเข้าใจตัวอักษรจริง ๆ โดยใช้วิธีสุ่มแต่ละตัวอักษรเพื่อให้ผู้เรียนออกเสียง ถ้าผู้เรียนออกเสียงถูกต้องถือว่าผู้เรียนสามารถอ่านตัวอักษรได้
สอง แนะนำการอ่านเป็นคำ อาจใช้วิธีอ่านเป็นคำสอนก่อนก็ได้ เช่น คำว่า นก งู หมู ปลา ไก่ เป็ด แล้วแยกสอนเป็นตัวพยัญชนะ ก็ได้ วิธีสอนชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้ใหญ
สาม แนะนำการอ่านเป็นประโยค และอ่านเป็นเรื่อง ตามลำดับ เพื่อฝึกทักษะในการอ่านเพิ่มขึ้น
สี่ ตามด้วยฝึกเขียน การเขียนควรสอนเมื่อผู้เรียนมีความพร้อมในการฟังพูดอ่านได้อย่างคล่องแคล่วก่อน จึงเริ่มสอนทักษะการเขียน เพราะทักษะการเขียนเป็นเรื่องยาก โดยเริ่มต้นฝึกเขียนจากพยัญชนะก่อน ตามด้วย สระ และวรรณยุกต์ หรือจะเริ่มฝึกเขียนจากคำก่อนอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ถ้าเป็นผู้ใหญ่ควรเริ่มฝึกเขียนจากคำก่อนเพราะผู้ใหญ่จะสนุกกับการเรียนรู้ความหมายด้วย ต่อจากนั้นก็สอนให้เขียนเป็นประโยค และเขียนเป็นเรื่องราว
ห้า สอนให้รู้จักคิดวิเคราะห์ การคิดวิเคราะห์เป็นหัวใจหลักของการรู้หนังสือ นั่นหมายถึง สามารถเข้าใจเรื่องราวที่ฟัง เรื่องราวที่พูด เรื่องราวที่อ่าน เรื่องราวที่เขียน ได้เป็นอย่างดีจึงสามารถเข้าใจความหมาย ของคำ จับใจความสำคัญของเรื่อง รู้จักถามรู้จักตอบ รู้จักวิเคราะห์/สังเคราะห์ รู้จักตีความหมายของเรื่อง และสามารถประเมินคุณค่าของเรื่องได้
โดยแท้จริงงานจัดการศึกษาสำหรับผู้ไม่รู้หนังสือ ยังมีอีกมากมายหลายพื้นที่ที่ต้องจัดการศึกษา แต่ถ้าหากจะกล่าวตามความเป็นจริงแล้ว ประเทศไทยยิ่งมีอัตราผู้รู้หนังสือมากขึ้นเท่าไหร่ ภารกิจงานที่จะส่งเสริมผู้ไม่รู้หนังสือก็นับวันจะยากเย็นแสนเข็ญเป็นลำดับ เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มที่เข้าถึงยาก เช่น ชาวไทยภูเขา ชาวเล กลุ่มแรงงาน ฯลฯ แต่ถึงอย่างไร งานการส่งเสริมผู้ไม่รู้หนังสือเป็นภารกิจหลักที่ กศน.ให้ความสำคัญ และพยายามเข้าถึง และเพิ่มจำนวนผู้รู้หนังสือขึ้นเป็นลำดับ จนกระทั่งปลอดผู้ไม่รู้หนังสือทีเดียว